Opinion: สมาร์ทโฟนกับความเสี่ยงต่อเด็ก This article is in Thai.

     ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสมาร์ทโฟน เป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นในการดำรงชีวิตสมัยใหม่ เป็นสิ่งที่ขาดเสียไม่ได้ ทั้งเรื่องการเรียน การเงิน การทำธุรกรรมต่าง ๆ ความบันเทิง การเลือกซื้อสินค้า ดูเหมือนว่าผู้คนส่วนใหญ่ในยุคนี้ ไม่ได้ตระหนักถึงภัยเงียบที่แฝงมากับเทคโนโลยี

     ผู้ปกครองหลายท่านต่างเร่งรีบไปทำงานกันแต่เช้าตรูจนถึงค่ำมืดดึกดื่น ปล่อยให้บุตรหลานอยู่บ้านเพียงลำพังกับโทรศัพท์มือถือ ซึ่งโทรศัพท์เหล่านี้สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างรวดเร็วเพียงชั่วพริบตาเท่านั้น เป็นเหตุให้ตกเป็นเหยื่อในรูปแบบต่าง ๆ มากมาย

     การคุกคามทางเพศส่วนหนึ่งมาจากการใช้โทรศัพท์อย่างไร้วิจารณญาน เข้าถึงแอพพลิเคชั่นที่ไม่เหมาะสมกับวัย ดังจะเห็นได้จากข่าวการล่วงละเมิดเด็กชาย ด้วยการล่อลวงเด็กผ่านแอพพลิเคชั่นหาคู่ของกลุ่มชายรักชาย โดยจากการสืบสวนสอบสวนปรากฏว่า ผู้ต้องหาเป็นล่อลวงให้เด็กส่งภาพอนาจารของตนเองมาให้ หลังจากทำการนัดเจอกันได้ล่วงละเมิดเด็กในรถยนต์ และข่มขู่ว่าหากนำเรื่องราวไปเปิดเผยจะนำรูปดังกล่าวไปประจาน ทั้งนี้ผู้ต้องหาเป็นผู้ติดเชื้อ HIV มาตั้งแต่ปี 2552 จากการทดเข้าใช้แอพพลิเคชั่นดังกล่าวในเขต อ.เมืองฉะเชิงเทรา มีผู้ใช้งานประมาณ 20 คนที่ใช้รูปโปรไฟล์เป็นชุดนักเรียน หรือเปิดเผยใบหน้าโดยตั้งเป็นสาธารณะ

     นอกจากนี้เด็กมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นเหยื่อของอาชญากรรมได้ หากเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในพื้นที่สาธารณะ เราไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าเด็กมีการใช้สื่อสังคมออนไลน์มากกว่าการสืบค้นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการเรียน เด็กมักจะแชร์รูปภาพเงินทอง ของหรูหรา การทานอาหารนอกบ้านในร้านอาหารราคาแพง การแชร์ข้อมูลในลักษณะนี้จะทำให้เป็นช่องทางให้ของอาชญากรได้รับข้อมูลในการวางแผนกระทำความผิดได้

     เด็กที่ใช้โทรศัพท์เป็นประจำจะไม่สามารถอดทนต่อแรงกดดันหรือสิ่งที่ขัดใจตน เนื่องจากอินเทอร์เน็ตในยุคนี้มีความเร็วสูง เด็กเข้าสืบค้นข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ความรวดเร็วเช่นนี้ส่งผลให้เด็กไม่สามารถอดทนรอเป็นเวลานานได้ ก่อให้เกิดพฤติกรรมก้าวร้าว เอาแต่ใจ อันอาจส่งผลต่อวินัยอันดี การวิวาทในที่สาธารณะโดยไม่ได้ฉุกคิด

     สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนังาน สพฐ. ได้อนุญาตให้สำนักพิมพ์ใส่ QR Code ในแบบเรียนได้ ถึงเรื่องนี้จะมีข้อดีในเรื่องความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลหรือเนื้อหาที่นอกเหนือจากตำราเรียน แต่การจะเข้าถึงได้นั้นจะต้องมีอุปกรณ์สมาร์ทโฟนก่อน แม้ว่าอุปกรณ์ดังกล่าวในยุคนี้จะมีราคาไม่สูงเหมือนก่อนกระนั้นหนึ่งพันบาทอาจเป็นค่าใช้จ่ายตลอดเดือนสำหรับหลายครอบครัว หลายฝ่ายแสดงความกังวลว่าเด็กอาจจะไม่ได้ค้นหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์เท่านั้น แต่ยังอาจเข้าถึงข้อมูลด้านพฤติกรรม เกม การใช้ภาษา ความรุนแรง และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเพศที่ไม่เหมาะสมอีกด้วย ฝรั่งเศสประเทศที่พัฒนาแล้ว ก็ได้ประกาศห้ามไม่ให้นักเรียนที่มีอายุต่ำกว่า 17 ปี นำโทรศัพท์มือถือเข้าโรงเรียนเพราะรัฐเป็นกังวลถึงปัญหาต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นภายในโรงเรียน

     ถึงเวลาหรือยัง ที่เราจะจำกัดการใช้โทรศัพท์ของเด็ก เพื่อป้องกันปัญหาด้านต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นจากการใช้โทรศัพท์อย่างอิสระและไม่ได้สอดแทรกวิจารณญานในการใช้จากผู้ปกครอง

Comments

Popular Posts