Opinion - ยกเลิก 112? ไม่คิดชั่วจะกลัวไปไย (This article is provided in Thai.)

        การเรียกร้องทางการเมืองของกลุ่มคณะราษฎรเริิ่มต้นอย่างเห็นได้ชัดในในวันที่ 10 สิงหาคม 2563 ที่เวทีการชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งในวันนั้น นางสาวรุ้งปนัสยา สิทธิวัฒนเจริญกุล ได้อ่านประกาศ ข้อเรียกร้อง 10 ข้อในการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์

ในต่างประเทศก็มีกฎหมายลักษณะเดียวกับ มาตรา 112 ของไทยโดยหลักการสำคัญของมาตรานี้คือการคุ้มครองประมุขของรัฐ เฉกเช่นในประเทศสหรัฐอเมริกาที่ระบุว่าใครก็ตามที่ข่มขู่จะสังหารประธานาธิบดีและครอบครัว ต้องระวางโทษจำคุก 5 ปี และปรับเป็นเงิน 250,000 ดอลล่าร์ หรือในประเทศสวีเดนที่ระบุไว้ในกฏหมายอาญาหมวด 18 มาตรา 2 ว่าการการทำตามมาตรา 3-5 ในหมวดนี้เกี่ยวข้องกับการประทุษร้ายพระมหากษัตริย์หรือพระบรมวงศานุวงศ์ จะต้องโทษจำคุก 4 ปี

        ในประเทศไทยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ระบุว่า "ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีถึง 15 ปี" ดังนั้นผู้กระทำการเข้าข่ายตามมาตรา 112 นี้จะต้องหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย หากการกระทำในเชิงวิชาการแล้ววิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์โดยสุจริต จะไม่เข้าข่ายตามมาตรานี้ ดังที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เข้าร่วมบรรยายทางวิชาการวิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์หลายครั้ง ก็ไม่มีทีท่าว่าจะถูกหมายเรียกตามมาตรา 112 


        ช่วงแรกของการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยนางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล อ่านประกาศ 2 หน้าพร้อมกับข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ 10 ข้อ ซึ่งในเวทีนี้มีนักโทษหนีคดีคือ นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ออกมาพูดโดยถ่ายภาพขึ้นจอบนเวทีเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยมีการนำเรื่องการหายตัว ของนายวันเฉลิม ศักดิ์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ซึ่งหลบหนีผ่านทางช่องทางธรรมชาติและถูกอุ้มไปขณะอยู่ในประเทศกัมพูชา หลัง
จากโพสต์วีดีโอคลิปวิจารณ์รัฐบาล จากนั้นไม่นานมีการโหมกระพือข่าวในทวิตเตอร์ ว่าสถาบันอยู่เบื้องหลังการหายตัวของนายวันเฉลิม แต่ก็นั้นมีข้อมูลอีกด้านหนึ่งว่า นายวันเฉลิมมีโรงเรือนในการปลูกกัญชาอยู่ในประเทศกัมพูชา  คำถามคือ "ถูกอุ้มเพราะเรื่องผลประโยชน์ที่เกี่ยวกับยาเสพติดหรือไม่ เหตุใดจึงนำมาเชื่อมโยงได้"

        ในลำดับต่อมามีการชุมนุมเป็นระยะ จนกระทั่งช่วงเย็นของวันที่ 14 ตุลาคม 63 ขณะที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ ประทับรถยนต์พระที่นั่งเพื่อเสด็จ ณ วัดราชโอรสาราม ในพระราชพิธีทอดผ้าพระกฐิน โดยเสด็จออกจากพระที่นั่งอัมพรสถาน เลียบถนนพิษณุโลก กลุ่มผู้ชุมนุมนำโดยนายบุญเกื้อหนุน เป้าทอง และนายเอกชัย หงส์กังวาน เข้ามาล้อมขบวนเสด็จ โดยแกนนำทั้งสองคนประกาศผ่านโทรโขงว่า "ขบวนเสด็จ ๆ ชูสามนิ้ว ๆ" แล้วกลุ่มผู้ชุมนุมตะโกนใส่กระบวนเสด็จว่า "ภาษีกู ๆ" พร้อมพ่นคำหยาบคายโดยมีแพทย์อาสาคนหนึ่งบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้ทั้งหมด 

        การชุมนุมมีขึ้นต่อเนื่องในช่วงเย็นของวันที่ 15 ตุลาคม 63 และในวันที่ 16 ตุลาคม 63 ที่แยกปทุมวัน กลุ่มผู้ชุมนุมเรื่องเคลื่อนขบวนไปยังหน้าวังสระปทุม ทำให้เจ้าหน้าที่ใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าสลายการชุมนุม ในเหตุการณ์นี้ทางนักข่าว CNA ชื่อ May Wong รายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปฏิบัติตามหลักในการสลายการชุมนุม และปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดกลั้น และไม่ได้ใช้กำลังเกินเหตุ แต่ในคืนนั้นกลับมี #...เป็นฆาตกร เกิดขึ้นในโลก twitter พร้อมกับคำคมขู่ว่าจะเผาพระราชวังต่างๆ ซึ่งเข้าขาวแสดงความอาฆาตมาดร้าย ใส่ร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา 112 ชัดเจน อีกทั้งสำนักข่าว afp และ Global News ได้แพร่ภาพตำรวจถูกผู้ชุมนุมทำร้ายด้วยคีมตัดเหล็ก ร่ม และขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ 

       นอกจากนี้ยังมี สส จากพรรคก้าวไกล หลายคนลงชื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ถ้าว่าปรากฏหลักฐานใดเป็นเครื่องยืนยันว่า สส เช่น นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้โพสต์ข่าวลวงแทบทุกวัน และ นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ยังต้องการสิ่งประดับบารมีของตน นั่นก็คือเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เมื่อถูกจับได้ไล่ทันว่า พรรคของพวกเขามีการดำเนินการอันน่าเชื่อได้ว่าเป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันฯ แต่ยังเสนอหน้าไปขอพระราชทานเครื่องราชฯ นายเท่าพิภพก็มุดเข้าใต้กระโปรงเจ้าหน้าที่ทันควัน โดยบอกว่าถ้าไม่ขอเจ้าหน้าที่จะมีความผิด ซึ่งผมได้ตรวจสอบในระเบียบว่าด้วยการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์มีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย พ.ศ. 2536 ก็ไม่ได้มีการระบุโทษของเจ้าหน้าที่หาก สส ไม่ยอมลงชื่อขอเครื่องราชฯ  การกระทำแบบนี้เรียกว่าอะไร? ส่วน สส จากพรรคเดียวกันที่มีความเห็นต่างต่อมาตรา 112 ก็ถูกรุมด่า ข่มขู่ว่าจะไล่ออกจากพรรค 

        ยังมีอีกประเด็นหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความย้อนแย้งของพรรคนี้ นั่นคือการฟ้องหมิ่นประมาทหมอวรงค์ พร้อมกับฟ้องทางแพ่งเรียกค่าเสียหาย 24,062,475 บาท โดยอ้างว่าหมอวรงค์ทำให้เกียรติของพรรคเสื่อมเสีย แต่กลับยื่นเสนอแก้ไขมาตรา 112 ให้ลดโทษเหลือจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับ 300,000 บาท ในกรณีนี้อนุมานได้ว่า พรรคการเมืองภาคเหนือตีข่าวสถาบันพระมหากษัตริย์พี่ก่อตั้งเมื่อเกือบ 300 ปีก่อน มีค่า 300,000 บาท ส่วนพรรคของตนที่ก่ตั้งได้ไม่ถึง 5 ปีกลับตีมูลค่าเท่ากับ 24,062,475 บาท ถ้าไม่เรียกว่าหน้าด้านก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร

        นายธนาธร  จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ก็เช่นกัน เผยแพร่คลิปไลฟ์สด กระแนะกระแหนสถาบันพระมหากษัตริย์ กลับบริษัท siam bioscience ว่าเป็นผู้รับผลประโยชน์จากการผลิตวัคซีนของ AstraZeneca พร้อมระบุว่าเป็นการผูกขาดการผลิตวัคซีน ทางกระทรวง DE จึงไปขอให้ศาลระงับการเผยแพร่คลิป เนื่องจากเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 112 ในแง่ของการหมิ่นประมาท ส่วนนางสาอัครสร โอปิลันทน์ หลานสาวของนายธนาธร ก็กลายเป็นลูกไม้ตกใต้ราก ออกมาโพสต์ในทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ต่อเหตุการณ์การชุมนุมในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ โดยกล่าวหาใส่ร้ายวาดสั่งให้ตำรวจทำร้ายประชาชนและแพทย์เพื่อผลประโยชน์และความโลภของตัวเอง แต่ 2 สิ่งที่ไม่สามารถเจาะกะโหลกคนพวกนี้ได้คือ 1. AstraZeneca เป็นคนเลือกบริษัทเพราะเป็นบริษัทที่ไม่แสวงหากำไร 2. ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ การ์ดของม็อบเองนั่นแหละ เป็นคนจุดชนวน 


        แกนนำของกลุ่มราษฎรก็ถูกจับและปล่อยตัวหลายครั้ง แต่พฤติกรรมไม่เปลี่ยนแปลงแล้วออกมาโจมตีสถาบันฯ นางสาวภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล โดนหมายเรียกตามมาตรา 112 เพราะไปกล่าว ใส่ร้ายพระมหากษัตริย์ ขณะที่ปราศรัยที่หน้าสถานทูตเยอรมัน นายอานนท์ นำภา ก็โดนหมายเรียกตามมาตรา 112 หลายครั้ง พอศาลให้ประกันตัวกลับออกมาปราศรัยที่หน้ารัฐสภา  ส่วนนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ก็โดนหมายเรียกตามมาตรา 112 โดยออกไปปราศรัย 2 ม็อบ  แต่เมื่อศาลให้ประกันตัว ก็ยังกระทำผิดซ้ำ ล่าสุดศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าออกมากระทำผิดซ้ำอีก และเกรงว่าจะหลบหนี ทางกลุ่มแกนนำที่อยู่ด้านนอก เลยจัดม็อบไปกดดันศาล 

        กฎหมายจะเป็นเพียงแค่กระดาษ ถ้าไม่ริอาจคิดทำชั่ว จะยกเลิกมาตรา 112 เพียงเพราะอยากโจมตี กล่าวหา ใส่ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ได้อย่างสนุกปาก และล้างความผิดความชั่วของพวกตัวเองหรืออย่างไร

Comments

Popular Posts